จอดรถในห้างแล้วหาย ใครรับผิดชอบ
โจทก์ รับบัตรที่พี่ รปภ.ยื่นให้ก่อนนำรถเข้าไปจอดยังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า
ในบัตรเขียนหมายเลขทะเบียนรถไว้ โจทก์เก็บใส่กระเป๋าไว้อย่างดีแล้วไปเดินเลือกหาซื้อสินค้า
ซื้อเสร็จ เดินไปยังที่ที่จอดรถไว้ ทว่ามีแต่รถคนอื่น รถของโจทก์หามีไม่
วนเวียนหาก็หาพบไม่ คือ หาไม่เจอ แม้เรียกพี่ รปภ.มาช่วยกันแล้วก็ไม่เจอ ไปเช็คดูที่ป้อม รปภ.ขาออก พบมีบัตรจอดรถที่เขียนเลขทะเบียนรถโจทก์อยู่ แสดงว่ามีคนยื่นบัตรนั้นขับรถโจทก์ออกไป
ทั้งๆ ที่บัตรที่รับมาเมื่อนำรถเข้ามาครั้งแรกยังอยู่ที่โจทก์
โจทก์เรียกให้ห้างฯ รับผิดชอบ แต่ห้างไม่ยอม
โจทก์จึงฟ้องห้างเป็นจำเลยที่ 1 บริษัท รปภ.เป็นจำเลยที่ 2 รปภ.ที่แจกบัตรที่ทางเข้าและรับบัตรออกที่ทางออกเป็นจำเลยที่ 3 และ 4 เรียกให้คืนรถที่หายไป หรือไม่ก็ใช้เงินมา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันคืนรถยนต์คันนั้น หรือใช้ราคาเป็นเงิน 220,000 บาท
แม้ทางห้างฯ และบริษัท รปภ.จะอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืน
ห้างฯ และบริษัท รปภ.ยื่นฎีกาอีก
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การออกบัตรจอดรถกำกับเฉพาะหมายเลขทะเบียน แต่ไม่ได้ระบุหมวดตัวอักษรหน้าทะเบียน และบัตรที่ออกให้เป็นบัตรอ่อน ระบุวัน เดือน ปีและเวลาที่รถเข้าจอด จึงง่ายต่อการปลอมแปลงและนำมาใช้ซ้ำ การที่ รปภ.ปล่อยให้คนร้ายนำรถของโจทก์ออกจากลานจอดรถโดยไม่ระมัดระวังในการตรวจบัตรจอดรถโดยเคร่งครัด จึงเป็นผลโดยตรงที่ทำให้รถของ โจทก์ถูกลักไป เป็นการประมาทของ รปภ.ซึ่งเป็นลูกจ้างกระทำในทางการที่จ้างของบริษัท รปภ.อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และ 425
บริษัท รปภ.และ รปภ.ทั้งสองคนจึงต้องร่วมกันรับผิดในผลแห่งละเมิดนั้น
สำหรับห้างฯ แม้สัญญาว่าจ้างรักษาความปลอดภัยจะระบุว่า เฉพาะรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของห้างและลูกจ้างห้างฯ เท่านั้น แต่สัญญายังรวมตลอดถึงบรรดาทรัพย์สินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์หรืออยู่ภายใต้การควบคุมหรือครองครองของห้างฯ ซึ่งอยู่ในบริเวณห้างด้วย บริษัท รปภ.จึงเป็นตัวแทนที่รับมอบหมายจากห้างฯ ในการรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินในห้างฯ ด้วย
เมื่อบริษัท รปภ.และ รปภ.ร่วมกันทำละเมิดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ โจทก์ทำให้รถยนต์สูญหายไป ห้างในฐานะตัวกลางจึงต้องร่วมรับผิดในแห่งละเมิดซึ่งตัวแทนได้กระทำไปในกิจการที่ได้รับมอบหมายให้ทำแทนนั้นตามมาตรา 427 ประกอบมาตรา 425
(เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5800/2553)
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
มาตรา 425 นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิดซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างนั้น
มาตรา 427 บทบัญญัติในมาตราทั้งสองก่อนนั้น (มาตรา 426 และ 425) ให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทนด้วย โดยอนุโลม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น