สำหรับวันนี้จะพูดถึงเรื่อง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ ได้กำหนดไว้ให้สิทธิแก่ประชาชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจต่างๆ มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2540 แล้วนะครับ แต่อาจมีคนจำนวนไม่มากนักที่ทราบถึงสิทธิดังกล่าว
ก่อนอื่นอยากจะพูดถึง กฎหมายที่เกี่ยวข้องหลักๆ คือ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้กำหนดให้ บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในการครอบครองของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ เว้นแต่ การเปิดเผยข้อมูลนั้นจะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประชาชน หรือเป็นข้อมูลส่วนตัวของประชาชนครับ เห็นไหมครับ ขนาดรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายตัวหลักยังได้บัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า ท่านผู้ฟังทุกท่านมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐครับ แล้วก็มี พ.ร.บ.นี้ที่มีบทบัญญัติเพิ่มเติมในรายละเอียด เช่นว่า ท่านผู้ฟังมีสิทธิอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่มีหน้าที่มีสิทธิอย่างไร ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ข้อมูลจะทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งผมจะพูดถึงอีกสักครู่
วันนี้ผมจึงจะขออธิบายเกี่ยวกับสิทธิของท่านผู้ฟังเฉพาะในส่วนที่สำคัญตาม พ.ร.บ. นี้ครับแต่ก็จะขอพูดถึง
เจตนารมณ์ของกฎหมายซึ่งก็เพื่อ
1 กำหนดให้สิทธิแก่ประชาชนที่จะได้รับข้อมูล 2 เพื่อให้ระบบราชการโปร่งใส ประชาชนตรวจสอบได้
3 เพื่อป้องกันการทุจริต 4 เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครอง สามารถคุ้มครองข้อมูลของตนเอง
ปกติในอดีตนานมาแล้ว หากท่านผู้ฟังต้องการจะทราบข้อมูลต่างๆจากทางเทศบาล เช่น อยากทราบว่า งบประมาณปีนี้มีเท่าไร จะใช้จ่ายในการทำอะไรบ้าง หากเดินมาขอข้อมูล เจ้าหน้าที่เทศบาลก็อาจจะปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ ไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวได้โดยอ้างว่าท่านเป็นผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลตรงนี้ แต่ในปัจจุบันแม้ท่านไม่มีส่วนได้เสีย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อยากทราบเฉยๆ หรือ น้องๆนักเรียนอยากจะเอาไปทำรายงาน หรือ มีเหตุผลส่วนตัวอื่นๆ ก็มาขอดูข้อมูลได้ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของเทศบาลครับ มีบริการให้ท่านสามารตรวจดูข้อมูลได้ทันทีครับ
ข้อมูลอะไรบ้างที่ ท่านขอดูได้
ตามหลักของ พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ ได้กำหนดว่า เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น ซึ่งหมายความว่า
หน่วยงานต่างของราชการมีหน้าที่ที่ต้องเปิดเผยข้อมูลต่างๆให้ประชาชนที่มาร้องขอทราบ โดยมีหลักว่าต้องเปิดเผย แต่ก็มีข้อมูลบางประเภทที่กฎหมายบอกเป็นข้อยกเว้นไม่ต้องเปิดเผยครับ เช่น สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นส่วนตัว ย่อมได้รับการคุ้มครองไม่ต้องเปิดเผยเว้นแต่ จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลนั้นก่อน
ยกตัวอย่างข้อมูลที่เปิดเผยได้เช่น เทศบัญญัติ แผนงานโครงการต่างๆ งบประมาณ ประกาศประกวดหรือสอบราคาจัดซื้อจัดจ้าง ราคากลาง ผลการประกวดราคาหรือสอบราคาจัดซื้อจัดจ้าง คำสั่งให้ผู้รับเหมาเป็นผู้ทิ้งงาน การสั่งอนุญาตหรือปฏิเสธการก่อสร้างอาคาร คำสั่งอนุมัติหรือไม่อนุมัติต่างๆ นโยบายเทศบาลแถลงต่อสภาเป็นต้น
ซึ่งการเปิดเผยนี้หากมีข้อมูลที่ต้องห้ามมิให้เปิดเผยเทศบาลก็มีสิทธิ ลบ ตัดทอน ในส่วนที่ห้ามเปิดเผยได้
อันนี้เรียกว่าเปิดเผยบางส่วนครับ
การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารก็มีหลายวิธีครับคือ 1 การลงพิมพ์ไว้ในราชกิจจานุเบกษา 2 การจัดไว้ให้ประชาชนได้ตรวจดู (ที่เทศบาลก็ได้มีศูนย์ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนตรวจดูได้ด้วยตนเอง) และนอกจากนี้เทศบาลเรายังมี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น